ความสงสัยเริ่มมาจากแมวที่ห้องตกลงไปข้างล่าง
ตกจากชั้น7 ซึ่งความสูงขนาดนี้ไม่น่าจะรอด ตายแน่ๆ
แต่มันไม่ตาย!! แค่ปากแตก
วันต่อมา แผลหาย แถมคึกกว่าเดิม (กุละเหนื่อยยย)
ก็เลยสงสัยว่า ทำไมแมวตกจากชั้น7แล้วไม่ตาย แล้วตกได้สูงสุดกี่เมตร
หลังจากสอบถามหลายๆคนแล้วไม่ได้คำตอบ
เลยต้องหันมาพึ่ง "อากู๋"
เลยได้คำตอบมาว่า...
เคยมีรายงานตีพิมพ์เก็บสถิติการตกของแมวจากผู้เลี้ยงไว้
เท่าที่มากสุดคือในช่วงตึก 30 ชั้นเกือบ 90% ที่แมวตกลงจากที่สูงที่ระดับ 100 กว่าเมตรแล้วไม่ตาย
แต่อาจจะมีบาดเจ็บ ส่วนที่บาดเจ็บมากที่สุดคือ ขากรรไกรและฟันที่กระเทาะแตก
ส่วนที่ตายเพราะเกิดอาการช็อคและอกกระแทก
เท่าที่มากสุดคือในช่วงตึก 30 ชั้นเกือบ 90% ที่แมวตกลงจากที่สูงที่ระดับ 100 กว่าเมตรแล้วไม่ตาย
แต่อาจจะมีบาดเจ็บ ส่วนที่บาดเจ็บมากที่สุดคือ ขากรรไกรและฟันที่กระเทาะแตก
ส่วนที่ตายเพราะเกิดอาการช็อคและอกกระแทก
ปัจจัยที่มีผลมี 2 ปัจจัย คือแรงที่มีผลต่อมวลของ
สิ่งที่ตกและความเร่ง(ค่า g)
และอีกปัจจัยหนึ่งคือพื้นที่ที่แรงนั้นแผ่กระจาย คือ F/A
และอีกปัจจัยหนึ่งคือพื้นที่ที่แรงนั้นแผ่กระจาย คือ F/A
ยิ่งสัตว์ที่ใหญ่ น้ำหนักยิ่งมาก แรงที่กระทำต่อสัตว์คือแรงโน้มถ่วงและพื้นที่ผิวที่มาก เช่นช้างตกลงมาย่อมเป็นอันตรายน้อยกว่าที่มดตกจากที่สูงนั่นเอง

ในกรณีที่แมวตก จะสังเกตุขามันจะกางออกด้วยเป็นเพราะสัญชาตญาณมั้งในขณะถ้าเป็นคนคงจะเอาขาลงหรือหัวดิ่งแน่ๆเลย
ผมพอจำได้ว่าความสูงที่น้อยแมวไม่มีเวลาจัดระเบียบแขนขาตัวเอง ยิ่งความสูงเพิ่มขึ้น
แมวมีเวลาโพสท่าตัวเองคือเหยียดแขนขาออกไปและหมุนตัวเองได้ทัน
พร้อมที่จะลงในท่าเอาขาลงแตะพื้นดินอย่างปลอดภัย
ผมพอจำได้ว่าความสูงที่น้อยแมวไม่มีเวลาจัดระเบียบแขนขาตัวเอง ยิ่งความสูงเพิ่มขึ้น
แมวมีเวลาโพสท่าตัวเองคือเหยียดแขนขาออกไปและหมุนตัวเองได้ทัน
พร้อมที่จะลงในท่าเอาขาลงแตะพื้นดินอย่างปลอดภัย

ช่วงที่ตกแมวจะกางแขนกางขาออก เหมือนกับเป็นร่มชูชีพ
ช่วงนั้นทำให้เกิดพื้นที่ผิวที่มากกว่าเดิม ในการสัมผัสกับแรงต้านอากาศที่มีในทิศขึ้น
ช่วงที่เริ่มตกจนถึงช่วงกางแขนขา แมวจะยังคงตกด้วยความเร่งอยู่
ช่วงนั้นทำให้เกิดพื้นที่ผิวที่มากกว่าเดิม ในการสัมผัสกับแรงต้านอากาศที่มีในทิศขึ้น
ช่วงที่เริ่มตกจนถึงช่วงกางแขนขา แมวจะยังคงตกด้วยความเร่งอยู่
แต่เมื่อแรงที่กระทำต่อตัวแมวในทิศขึ้น(แรงต้านอากาศ)
กับแรงที่กระทำต่อตัวแมวในทิศลง(น้ำหนักแมวเนื่องจากแรงโน้มถ่วง)มีค่าเท่ากัน
จะทำให้แมวเคลื่อนที่ไปพร้อมกับกฏข้อที่ 1 ของนิวตัน
คือ เมื่อไม่มีแรงลัพธ์ใดๆมากระทำต่อวัตถุ วัตถุจะรักษาสภาพการเคลื่อนที่เดิมไว้
ช่วงนี้แหละครับ ที่แมวตกลงด้วยความเร็วคงที่ และเป็นความเร็วสุดท้ายที่มีค่าลดลงกว่าที่เมื่อตกลงมาใหม่ๆ
เมื่อแมวตกถึงพื้น ความเร็วสุดท้ายจึงมีค่าลดลง ทำให้ตกได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง
ประกอบกับส่วนขาของมันลงสู่พื้นก่อน ข้อต่อตะโพกและไหล่ของแมวก็ยืดหยุ่นได้
คล้ายขดลวดสปริง ด้วยเหตุนี้แมวจึงมักรอดจากการตกจากที่สูงมาก ๆได้
แต่ที่บาดเจ็บเสียเป็นส่วนมากถ้าสูงมากๆ เกิดจาก ถึงขาและสะโพกจะยืดหยุ่น
ได้ดี แต่ส่วนของขากรรไกรและใบหน้าไม่เหมือนกับตรงนั้น มันน่าจะมีแรงเฉื่อย
เคลื่อนต่อได้(ไม่ได้หยุดแบบขา) หน้าจึงลงไปกระแทกกับพื้น ถ้าตกจากที่สูงมากๆ
กับแรงที่กระทำต่อตัวแมวในทิศลง(น้ำหนักแมวเนื่องจากแรงโน้มถ่วง)มีค่าเท่ากัน
จะทำให้แมวเคลื่อนที่ไปพร้อมกับกฏข้อที่ 1 ของนิวตัน
คือ เมื่อไม่มีแรงลัพธ์ใดๆมากระทำต่อวัตถุ วัตถุจะรักษาสภาพการเคลื่อนที่เดิมไว้
ช่วงนี้แหละครับ ที่แมวตกลงด้วยความเร็วคงที่ และเป็นความเร็วสุดท้ายที่มีค่าลดลงกว่าที่เมื่อตกลงมาใหม่ๆ
เมื่อแมวตกถึงพื้น ความเร็วสุดท้ายจึงมีค่าลดลง ทำให้ตกได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง
ประกอบกับส่วนขาของมันลงสู่พื้นก่อน ข้อต่อตะโพกและไหล่ของแมวก็ยืดหยุ่นได้
คล้ายขดลวดสปริง ด้วยเหตุนี้แมวจึงมักรอดจากการตกจากที่สูงมาก ๆได้
แต่ที่บาดเจ็บเสียเป็นส่วนมากถ้าสูงมากๆ เกิดจาก ถึงขาและสะโพกจะยืดหยุ่น
ได้ดี แต่ส่วนของขากรรไกรและใบหน้าไม่เหมือนกับตรงนั้น มันน่าจะมีแรงเฉื่อย
เคลื่อนต่อได้(ไม่ได้หยุดแบบขา) หน้าจึงลงไปกระแทกกับพื้น ถ้าตกจากที่สูงมากๆ
นี่คงเป็นสาเหตุที่มันปากแตกและรอดจากการตกตึกนั่นเอง